สำนัก

โดย
สำนักการกระจายอำนาจและปกครองตนเอง(กอ-ปอ)
Decentralization & Local Autonomy Agency(DLA)

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Kurtlar vadisi - Irak (2006)

กระชากหน้ากากซากเดนศักดินา
หมวดเรื่อง : กลไก+ทุนเสบียงขี้เหลือง
ตอน : CIA ในอิรัก(และไทย)


122 min  -  Action | Adventure   -  3 February 2006 (Syria)
Directors: Serdar Akar, Sadullah Sentürk
Writers: Raci Sasmaz (screenplay), Bahadir Özdener (screenplay)
Stars: Necati Sasmaz, Billy Zane and Ghassan Massoud

เมื่อคืนข้าพเจ้าได้ดูหนังเรื่อง “ปฏิบัติการลุยแดนเดือดอิรัก” ซึ่งต้นฉบับชื่อ "Valley of the Wolves Iraq"    ดูแล้วมันส์มาก ทั้งสนุก ทั้งลุ้น และทั้งได้ข้อมูล/มุมมองดีๆที่น่าสนใจอย่างมาก เกี่ยวกับความชั่วของ CIA และอเมริกา. ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกลับมาย้อนดูปัญหาการเมืองบ้านเราที่ยังคงมีอิทธิพลของ CIA อยู่เบื้องหลังใกล้ชิดแนบแน่นกับ “กลุ่มเผด็จการอำมาตย์อันมีทุนซากเดนศักดินาบงการอยู่เบื้องหลัง” แม้ในปัจจุบันที่เราคิดว่าหมดยุคนั้นไปแล้ว - ข้อมูลของ วิกิลิ๊ค ที่เผยแพร่กรณี กลุ่มองคมนตรีแอบเข้าพบสถานทูตอเมริกาเพื่อพูดคุยกันเรื่อง ร.10 กันอย่างลับๆ ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของอิทธิพลของ CIA เป็นอย่างดี -  ก็เลยอยากแบ่งปันและแนะนำให้ท่านไปหาหนังเรื่องนี้มาดูกันมั่ง. เป็นหนังทุนสร้างสูงสุดของตุรกีและนำเสนอเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงกองกำลังสหรัฐอเมริกาทำสงครามยึดครองอิรัก

Theme : หนังพยายามสื่อต่อคนดูว่า การใช้ความรุนแรง การทำลายชีวิตผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อรุกราน หรือตอบโต้ล้างแค้น ไม่ว่าจะอ้างว่าทำเพื่อพระเจ้า(ทั้งคริส หรือ มุสลิม) ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้น  สุดท้ายก็จบลงด้วยการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะกับชีวิตของผู้บริสุทธิ์(แต่หนังบอกไม่ค่อยชัดเท่าไรว่า แล้วทางออกควรจะเป็นอย่างไร ในเมื่อฝ่ายหนึ่งรุกรานเข่นฆ่าทารุณต่ออีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม) 

Plot : หนังนำเสนอเหตุการณ์จริงในวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 2546(ตรงกับวันชาติขิงอเมริกาพอดี) ทางเหนือของอิรัก ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่อเมริกาบุกอิรักสำเร็จ จนซัดดัมต้องหนีลงใต้ดิน อเมริกันหนุนรัฐบาลใหม่เป็นหุ่นเชิด และทำการไล่ล่ากลุ่มติดอาวุธอย่างหนัก.  ทหารอเมริกันโดยมี CIA บงการอยู่เบื้องหลังได้บุกจับทหารตุรกี 11 นายเป็นเชลย เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับตุรกีในเวลาต่อมา. พระเอกและทีมงานซึ่งเป็นอดีตทหารตุรกีลอบเข้าอิรักเพื่อสังหารหัวหน้า CIA ที่ชื่อ Sam Marshall .


หนังโชว์ให้เห็นถึงความชั่วร้ายของ CIA ที่เข้าไปบงการแทรกแซงทั้งทางการเมืองและการทหารในประเทศโลกที่สามอย่างอิรัก โดยอ้างความชอบธรรมให้กับการกระทำชั่วของตนเอง ด้วยการอ้างว่าทำเพื่อพระเจ้า(คริสเตียน) ในการไล่ฆ่า “ผู้ก่อการร้าย”ได้อย่างชอบธรรมตามอคติเหยียดหยามต่อมุสลิมแบบเหมาเข่ง มีฉากที่ทหารอเมริกันบุกเข้างานแต่งงานและยิงเด็กชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งต่อหน้าแม่ของเขาเอง พร้อมกับใช้ปืนกลยิงกราดฆ่าผู้บริสุทธิ์หลายสิบคน จ่อยิงที่ศีรษะเจ้าบ่าว และลากผู้รอดชีวิตที่เหลือเข้าคุมขังและทรมานที่เรือนจำ “อาบู กราอิบ” อันอื้อฉาว. ที่ยิ่งเลวร้ายกว่านั้น คือมีหมอชาวยิวแอบตัดอวัยวะภายในของผู้ต้องหาส่งไปขายต่อให้กับคนรวยในนิวยอร์ก ลอนดอน และเทลอาวีฟ.
อย่างไรก็ดี หนังพยายามสอดแทรกให้เห็นว่าในหมู่ทหารอเมริกันก็มีทั้งคนเลวและคนดี. รวมทั้งมีมุสลิมต้องการล้างแค้นด้วยการฆ่า/ระเบิดพลีชีพเพื่อตอบโต้ และก็มีมุสลิมที่ต้องการสู้อย่างสันติ โดยมี “ชี๊ค” ยืนยันคำสอนของศาสดาที่ไม่สนับสนุนการฆ่าล้างแค้นใดๆทั้งสิ้น

ข่าวว่าภาพยนตร์เรื่อง "Valley of the Wolves Iraq" ใช้ทุนสร้างถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 400 ล้านบาท และเป็นหนังตุรกีเรื่องล่าสุดที่นำเสนอภาพสหรัฐในด้านมืด โดยมีบิลลี่ เซน ดาราอเมริกัน ร่วมแสดงในบททหารกองกำลังสหรัฐ ร่วมด้วยแกรี่ บิวซีย์ รับบทหมอชาวอเมริกันเชื้อสายยิว
นอกจากนี้ บาฮาดีร์ อุซดีเนร์ ผู้เขียนบทยังต้องการนำเสนอเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในอิรักด้วย "Valley of the Wolves Iraq" เปิดตัวที่ เทศกาลหนังมุสลิม ที่ San Francisco เมื่อปี 2006 และมีคิวฉายในอีก 10 กว่าประเทศ ได้แก่ สหรัฐ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ เดนมาร์ก รัสเซีย อียิปต์ ซีเรีย และออสเตรเลีย โดยเฉพาะที่เยอรมนี ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้ยกเลิกการจัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื่องจากมีเนื้อหาเหยียดผิวและอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างโลกมุสลิมกับโลกตะวันตกมากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น